ถ้ายังหยุดคิดหยุดมอง หยุดอนุมานเปรียบเทียบ
- Kittichoke Veratecha
- 23 มี.ค. 2565
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 พ.ค. 2566

ถ้ายังหยุดคิดหยุดมอง หยุดอนุมานเปรียบเทียบ หรือเทียบเคียงสรรพสิ่งด้วยปัญญาที่มีแต่ความมืดบอดของตนเอง หรือเทียบเคียงสรรพสิ่งด้วยปัญญาที่มีแต่สมมติสัจจะ ความโง่เขลาด้วยอวิชชาของตนเองเป็นใหญ่ เป็นที่ตั้ง ในความคิดเห็นและมุมมองของตัวเอง ไม่ได้มองเห็นเป็นอริยสัจจะ ซึ่งมันจะมีหรือไม่มีมันก็เป็นเช่นนั้นเอง ถ้ายังติดกับความคิดในจิตที่มืดบอดของตัวเอง ความเห็นของตัวเอง มุมมองของตัวเอง ชีวิตก็ยังไม่มีวันสงบสุขอย่างแท้จริงได้ ตราบใดที่ยังคิดแล้วปล่อยวางไม่เป็นไม่ได้ ยังยึดมั่นเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ ก็ยังไม่เห็นสัจจธรรมอันแท้จริง เพราะความจริงไม่มี เช่นนั้นคือการยึดมั่นถือมั่น ถือตัวถือตน ติดยึดอยู่กับความคิดความเห็นสติปัญญาของตนในความมืด ยังไม่แจ่มแจ้งชัดเจน ตราบใดดวงตะวันสาดแสงแห่งสัจจธรรมในหัวจิตหัวใจ จึงจะได้เห็นแจ้งแจ่มชัด ซึ่งมันอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดเราเห็นโดยอนุมานเทียบเคียงหรือคิดเอาเอง ในความมืดบอดของจิตใจตัวเราเองสรรพสิ่งล้วนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มายายึดติด จงออกมาแม้กระทั่งความคิดของตนเอง มุมมองของตนเองก็ต้องออกมาจากมันให้ได้ มามองดูอยู่ในมุมของแสงสว่างแห่งสัจจธรรมปัญญา ว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สอดส่องธรรมสอดส่องใจตัวเอง ไม่ต้องไปยุ่งสอดส่องใคร ให้มีแต่เรื่อง มีแต่เป็นทุกข์กระทบกระทั่งไม่สงบสุขวุ่นวายใจทำใจแบบนี้ได้ กายทำหน้าที่เอื้อเฟื้อโลกไป แยกกันได้ใจกายก็สงบสุขไม่ขัดกันเพราะใจว่างเพราะปล่อยวาง พากันทำใจ คนรู้ธรรมพูดธรรมอาจไม่ได้ถึงธรรมเพราะไม่ได้ทำ เหมือนคนอ่านตำรายา กับคนเดินเข้าป่าไปหายาเพราะรู้ว่าอยู่ที่ไหน คนไหนจะเป็นคนได้ยา ให้พากันพิจารณา ทางลัดที่สุดคือปล่อยวางสวรรค์นรก เกิดตาย ชอบไม่ชอบรักโกรธเกลียด พอใจไม่พอใจ สุขทุกข์ ดีชั่ว ฯลฯ ก็ยังเป็นวัฏฏะวนอยู่ดี หมดไม่มี ด้วยว่างจากสิ่งเหล่านี้ที่ยึดมั่นในสมมติไว้ มีแต่สัจจธรรมที่เป็นเช่นนั้นของมันเอง โดยว่างจากตัวตนหรืออะไรจะไปเกี่ยวยึดเกี่ยวข้อง จึงหมดวัฏฏะวนเวียนว่ายตายเกิด พากันพิจารณาพากันมอง พากันออกมาจากมุมมืดของจิตวิญญาณตนเองในอวิชชา ด้วยเห็นแสงสว่างของดวงตะวันแห่งสัจธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังนี้เถิด
#คำสอนของหลวงพ่อช้าง เตชปญฺโญ.

